
นโยบายที่เกี่ยวกับการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าหรือบุคคล
บริษัท เบสท์ คาร์ เซ็นเตอร์ จำกัด ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลและจะรักษาข้อมูลที่ได้รับจากลูกค้าไว้เป็นความลับ บริษัทจึงขอแจ้งให้ทราบถึงนโยบายที่เกี่ยวกับการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าหรือบุคคลใดที่ได้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท ดังนี้
1. การใช้คุกกี้
คุกกี้ คือ ไฟล์ข้อความขนาดเล็ก ซึ่งประกอบด้วยตัวอักษรและตัวเลข ที่บริษัทจัดเก็บไว้ใน เบราว์เซอร์ หรือฮาร์ดดิสก์ของคอมพิวเตอร์ของท่าน, แท็บเล็ต ของท่าน หรืออุปกรณ์สื่อสารพกพาของท่าน บริษัทอาจเก็บข้อมูลของท่านผ่านทางคุกกี้เหล่านี้ เมื่อท่านเข้าชมเว็บไซต์ของเรา
2. วัตถุประสงค์การเก็บข้อมูลของคุกกี้
- วิเคราะห์ ประมวลผลลักษณะการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงวัดปริมาณการเข้าใช้งานบริการทางออนไลน์ เพื่อเพิ่มประสบการณ์และความพึงพอใจของท่าน คุกกี้ทำให้บริษัทสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลของคุณที่เกี่ยวกับการใช้เว็บไซต์ และแอปพลิเคชั่นอื่นๆ ของบริษัท ทั้งการเข้าชมเพียงครั้งเดียว (โดยใช้เซลชันคุกกี้) หรือการเข้าชมแบบซ้ำๆ (โดยใช้ เพอร์ซิสเทนต์คุกกี้)
- เพื่อศึกษาพฤติกรรมของผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์โดยรวม และนำไปพัฒนาให้สามารถใช้งานได้ง่าย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- คุกกี้ (Cookie) จะเก็บข้อมูลที่จะเชื่อมโยงกับบริการต่างๆ ของบุคคลที่สาม เพื่อบุคคลที่สามจะสามารถให้บริการแก่ท่านเพื่อเป็นการตอบแทนที่ท่านได้เคยเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท
- เพื่อการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ และบริการต่างๆ ของบริษัท และเพื่อปรับแต่งเว็บไซต์ แคมเปญโฆษณาให้เหมาะสมกับความสนใจของท่าน
- ติดตามการเยี่ยมชมของท่านเพื่อให้บริษัทสามารถเรียนรู้ความชื่นชอบของท่านในตัวผลิตภัณฑ์และบริการ ตลอดจนเพื่อปรับปรุงบริการของบริษัท
- หากท่านติดต่อบริษัท บริษัทอาจจะทำการเก็บบันทึกข้อมูลการติดต่อนั้นไว้เพื่อทำการติดต่อกลับตามรายละเอียดข้อมูลที่ท่านได้กรอกไว้ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกจัดเก็บเพื่อใช้เพิ่มประสบการณ์การใช้งานบริการทางออนไลน์ โดยจะจำเอกลักษณ์ของภาษาและปรับแต่งข้อมูลการใช้งานตามความต้องการของท่าน
การเก็บข้อมูลนี้เพื่อเป็นการยืนยันคุณลักษณะเฉพาะตัว ข้อมูลความปลอดภัยของท่าน รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการที่ท่านสนใจ นอกจากนี้คุกกี้ ยังถูกใช้ การปรับเปลี่ยนเนื้อหาตามการใช้งานของท่านทั้งในก่อนหน้าและปัจจุบัน หรือเพื่อวัตถุประสงค์ในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์การใช้และการเปิดเผยข้อมูลในรูปแบบคุกกี้
3. รายละเอียดคุกกี้แต่ละประเภทของบริษัทที่อาจจะถูกใช้งานในเว็บไซต์มีดังนี้
- คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Necessary Cookies) คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานของเว็บไซต์ ได้แก่ คุกกี้ที่ทำให้เว็บไซต์สามารถทำหน้าที่ขั้นพื้นฐาน เช่น การเลื่อนสำรวจหน้าเว็บ หรือ ทำให้ผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์เข้าสู่ระบบและสามารถเข้าถึงส่วนของเว็บไซต์ที่ถูกสงวนไว้ให้ใช้ได้เฉพาะสมาชิกเท่านั้น เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานอย่างถูกต้องได้เลยหากไม่มีการเก็บรวบรวมคุกกี้เหล่านี้ บริษัทจึงไม่มีความจำเป็นต้องขอความยินยอมจากท่านในการจัดวางคุกกี้เหล่านี้ลงในอุปกรณ์ของท่าน คุกกี้ประเภทนี้ไม่ได้มีการจัดเก็บข้อมูลซึ่งสามารถระบุตัวตนของท่านได้อย่างเฉพาะเจาะจงแต่อย่างใด
- คุกกี้ประสิทธิภาพ (Performance Cookies) คุกกี้ประเภทนี้ทำให้ บริษัทสามารถนับจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ และแหล่งที่มาของผู้เข้าชมเหล่านั้น ทำให้เข้าใจว่าผู้เข้าชม/ผู้ใช้มีการปฏิสัมพันธ์กับเว็บไซต์อย่างไรบ้าง และหน้าเว็บใดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดหรือน้อยที่สุด โดยการเก็บรวบรวมและการรายงานข้อมูลโดยไม่ระบุตัวตนของท่านอย่างไม่เฉพาะเจาะจงแก่บริษัท ช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนาและมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดีกว่าแก่ท่าน หากท่านไม่อนุญาตให้ใช้คุกกี้ประเภทนี้ บริษัทจะไม่อาจทราบได้ว่าท่านเคยมาเข้าชมเว็บไซต์ของ บริษัทเมื่อใด และไม่สามารถติดตามประสิทธิภาพการประมวลผลของหน้าเว็บได้
- คุกกี้ประเภทการโฆษณา (Advertising cookies) คุกกี้ประเภทนี้จะจดจำการตั้งค่าของท่านในการเข้าใช้งานหน้าเว็บไซต์ และนำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการปรับเปลี่ยนหน้าเว็บไซต์เพื่อนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ตัวอย่างเช่น การเลือกแสดงโฆษณาสินค้าที่คุณสนใจ การป้องกันหรือการจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นหน้าเว็บไซต์ของโฆษณาซ้ำ ๆ เพื่อช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณา
- คุกกี้ประเภทการวิเคราะห์ และวัดผลการทำงาน (Analytic/Performance cookie) คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถจดจำและนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ตลอดจนช่วยให้บริษัททราบถึงพฤติกรรมในการเยี่ยมชมเว็บไซต์เพื่อปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ให้มีคุณภาพดีขึ้นและมีความเหมาะสมมากขึ้น อีกทั้งเพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับวิธีการเข้าและพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์โดยให้ท่านสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย และช่วยให้บริษัทข้าใจถึงความสนใจของท่าน และวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาของบริษัท
4. การรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับคุกกี้
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเข้าสู่เว็บไซต์ของท่านที่ถูกเก็บเอาไว้ในรูปแบบของคุกกี้ (Cookie) โดยบริษัทมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม และบริษัทจะเปิดเผยให้เฉพาะแก่พนักงานหรือผู้รับจ้างของบริษัทที่เกี่ยวข้องในการวิเคราะห์ ประมวลผลลักษณะการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน และที่เกี่ยวข้องกับการทำสื่อโฆษณา ปรับแต่งเว็บไซต์
5. ระยะเวลาในการเก็บ และใช้ข้อมูลในรูปแบบคุกกี้
บริษัทจะเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเข้าสู่เว็บไซต์ของท่านในรูปแบบของคุกกี้(Cookie) เป็นระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่ท่านได้ให้ความยินยอม
6. ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้จากการไม่ให้เก็บ และใช้ข้อมูลในรูปแบบคุกกี้
ท่านสามารถเข้าใช้และเข้าสู่เว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นไปตามความสมัครใจ อย่างไรก็ตาม หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัท บริษัทอาจไม่สามารถให้บริการตามที่ท่านต้องการได้ และอาจทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บไซต์ของท่านเป็นไปอย่างไม่ต่อเนื่อง และท่านจะสูญเสียโอกาสในการรับทราบข่าวสาร โฆษณาและประชาสัมพันธ์ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และบริการที่ดีจากบริษัท
7. วิธีการจัดการคุกกี้ในเบราว์เซอร์ของท่าน
- ตั้งค่าคุกกี้ใน Google Chrome : Google Chrome
- ตั้งค่าคุกกี้ใน Firefox : Firefox
- ตั้งค่าคุกกี้ใน Safari : Safari
- ตั้งค่าคุกกี้ใน Microsoft Edge : Microsoft Edge
- ตั้งค่าคุกกี้ใน Internet Explorer : Internet Explorer
8. การปรับปรุงนโยบายการใช้คุกกี้
บริษัทมีการพิจารณาทบทวนและปรับปรุงนโยบายการใช้คุกกี้นี้ตามความเหมาะสมอยู่เป็นระยะ ท่านสามารถเข้าเยี่ยมชมหน้าเว็บไซต์นี้หากต้องการทราบนโยบายการใช้คุกกี้ฉบับปรับปรุงของบริษัท
9. ช่องทางการติดต่อสอบถามหรือใช้สิทธิ
หากเจ้าของข้อมูลต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ตลอดจนมีข้อสงสัยหรือมีความประสงค์ขอใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน สามารถ ติดต่อบริษัทผ่านช่องทางดังนี้
ชื่อบริษัท : บริษัท เบสท์ คาร์ เซ็นเตอร์ จำกัด
ที่อยู่ : 434/1 ถ.ศรีนครินทร์ ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ เทศบาลนครสมุทรปราการ 10270
เว็บไซต์ของบริษัท : www.best-carcenter.com
อีเมล : admin@best-carcenter.com
เบอร์โทรศัพท์ : 02-7438634
บริษัท เบสท์ คาร์ เซ็นเตอร์ จำกัด (“ บริษัท ”) ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ( “ ท่าน ” ) ได้ให้ไว้กับบริษัทผ่านช่องทางต่างๆ บริษัทจึงขอแจ้งให้ทราบถึงนโยบายความเป็นส่วนตัวอันเกี่ยวข้องกับแนวทางการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัท ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) เมื่อเจ้าของข้อมูลมีนิติสัมพันธ์ ติดต่อ หรือใช้บริการ และ/หรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทผ่านช่องทางต่างๆ ที่บริษัทกำหนด ดังนั้นบริษัทจึงจัดทำนโยบายฉบับนี้ขึ้นเพื่อชี้แจง รายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล การทำลายข้อมูล อีกทั้งสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งท่านสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ ดังต่อไปนี้
1. ข้อมูลที่เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และแหล่งที่มาของข้อมูล
บริษัทจะทำการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับไม่ว่าทางตรง ทางอ้อม หรือจากแหล่งอื่น รวมถึงการได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลอย่างชัดแจ้ง โดยจะจัดเก็บเท่าที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้แก่เจ้าของข้อมูล
1.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป ที่เป็นข้อมูลแสดงตัวตนของท่าน Identity Data ซึ่งหมายถึง ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบุคคลธรรมดาที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของท่านได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น ชื่อ/นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง วัน/เดือน/ปีเกิด รวมถึงข้อมูลอ่อนไหว เช่น ข้อมูลชีวภาพ ( ลายนิ้วมือ ข้อมูลใบหน้า ) ข้อมูลสุขภาพ เป็นต้น
1.2 ข้อมูลติดต่อของท่าน Contact Data เช่น ที่อยู่ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์
1.3 ข้อมูลทางการเงินหรือข้อมูลการทำธุรกรรมของท่านกับบริษัท Financial and Transaction Data เช่น หมายเลขบัญชีเงินฝาก/เงินลงทุน หรือรายการเบิก/ถอนเงินในบัญชี ข้อมูลรายได้ รายจ่าย ยอดเงินฝากที่มีกับธนาคาร ประวัติสินเชื่อที่มีอยู่กับบริษัท หรือข้อมูลการชำระหนี้ ข้อมูลจากฐานข้อมูลของกรมบังคับคดี เป็นต้น
1.4 ข้อมูลความชื่นชอบของท่านในการค้นหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต Technical and Usage Data เช่น การค้นหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ของบริษัท ( Website Browsing ) จากการใช้ Cookies หรือการเชื่อมต่อเว็บไซต์อื่นๆที่ท่านเข้าไปค้นหาข้อมูล เป็นต้น
1.5 ข้อมูลการติดต่อกับบริษัท Communication Data เช่น เทปบันทึกในกรณีที่ท่าน เข้ามาติดต่อบริษัท ผ่านทาง Contact Center ซึ่งอาจเป็นภาพหรือเสียง เป็นต้น และไม่ว่าท่านได้ให้ข้อมูลไว้หรือมีอยู่กับบริษัท หรือที่บริษัทได้รับ หรือเข้าถึงได้จากแหล่งข้อมูลอื่นที่น่าเชื่อถือ และ/หรือบริษัทพันธมิตรของบริษัท หรือที่ปรึกษาของบริษัท
2. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ บริษัททำการเก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อประโยชน์ของท่านในการทำธุรกรรมและ/หรือใช้บริการกับบริษัท เพื่อปฎิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และ/หรือเพื่อประโยชน์อื่นใดที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้แก่บริษัท โดยบริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลของท่านตามมาตรการรักษาความปลอดภัยของบริษัท ท่านสามารถศึกษารายละเอียดได้ดังต่อไปนี้
2.1 การปฎิบัติตามสัญญาระหว่างท่านกับบริษัท เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการต่างๆของท่าน การปฎิบัติตามกระบวนการภายในของบริษัท การทำประกันภัยทรัพย์หลักประกัน การโอนขายกลุ่มลูกหนี้ให้แก่บุคคลอื่น การรับ-ส่งเอกสารการติดต่อระหว่างบริษัท การทวงถามให้ท่านชำระหนี้ที่ค้างตามสัญญาสินเชื่อที่มีกับบริษัท
2.2 การปฎิบัติตามกฎหมาย เช่น การป้องกันและการตรวจจับความผิดปกติของธุรกรรมที่นำไปสู่กิจกรรมที่ผิดกฎหมาย การรายงานข้อมูลของท่านต่อกรมสรรพากร การรายงานข้อมูลส่วนบุคคลต่อหน่วยงานราชการ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ กรมสรรพากร หรือ เมื่อได้รับหมายเรียกหมายอายัดจากหน่วยงานราชการ หรือ ศาล เป็นต้น
2.3 ประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท เช่น
- การป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการกระทำที่ผิดกฎหมายต่างๆ ซึ่งรวมถึงการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อยกระดับมาตรฐานการทำงานของบริษัทในธุรกิจเดียวกันในการป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยงข้างต้น
- การบันทึกภาพผู้ที่มาติดต่อทำธุรกรรมกับสำนักงานหรือสาขาของบริษัทลงบน CCTV
- การบริหารความเสี่ยง/การบริหารจัดการภายในองค์กร รวมถึงการส่งต่อไปยังบริษัทในเครือกิจการเพื่อการดังกล่าว ภายใต้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเครือกิจการ Binding Corporate Rules
- การตรวจสอบการรับส่งอีเมลหรือการใช้อินเตอร์เน็ตของพนักงานกับท่าน เพื่อป้องกันการเปิดเผยข้อมูลลับของบริษัทต่อบุคคลภายนอก
- การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อใช้ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ในประเภทเดียวกันกับที่ท่านมีอยู่กับบริษัทและผลิตภัณฑ์อื่นของบริษัทให้แก่ท่านอย่างเหมาะสมกับความต้องการของท่าน และ/หรือในการทำวิจัยทางการตลาด เพื่อผลิตภัณฑ์ของบริษัท
- การรักษาความสัมพันธ์กับท่าน เช่น การจัดการข้อร้องเรียน การเสนอสิทธิประโยชน์พิเศษโดยไม่มีวัถตุประสงค์ทางการตลาดให้แก่ท่าน เป็นต้น
ทั้งนี้หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับเราอาจส่งผลกระทบต่อท่านในการไม่ได้รับการให้ผลิตภัณฑ์/บริการไม่ได้รับความสะดวก หรือไม่ได้รับการปฎิบัติตามสัญญาและท่านอาจได้รับความเสียหาย/เสียโอกาส และอาจส่งผลกระทบต่อการปฎิบัติตามกฎหมายใดๆที่ท่านหรือบริษัทต้องปฎิบัติ และอาจมีบทกำหนดโทษที่เกี่ยวข้อง
3. การเปิดเผยและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลร่วมกับบุคคลที่สาม
หากท่านได้ให้ความยินยอม หรือเป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ หรือเป็นไปตามความจำเป็นเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย เป็นต้น บริษัทอาจส่ง โอน และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ไปยังบุคคลอื่นทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยบริษัทอาจเปิดเผยหรือใช้ข้อมูลของเจ้าของข้อมูลตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้นกับบุคคลดังต่อไปนี้ เช่น
3.1 บริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึง กรรมการ พนักงาน หรือตัวแทนของบริษัทเหล่านั้น
3.2 พันธมิตรทางธุรกิจ (ตรวจสอบรายชื่อดังกล่าวได้จากเว็บไซต์ของบริษัท)
3.3 หน่วยงานทางการที่กำกับดูแลบริษัท ศาล ตำรวจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย รวมทั้ง ผู้ตรวจสอบบัญชี หรือหน่วยงานทางการอื่นใดที่มีอำนาจและมีคำสั่งให้บริษัทส่งข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลหรือนำส่งทรัพย์สิน เช่น กรมบังคับคดี กรมสรรพากร เป็นต้น
3.4 หน่วยงาน องค์กร ผู้ให้บริการภายนอก หรือนิติบุคคลอื่นใดที่มีสัญญากับบริษัท หรือที่บริษัทเป็นคู่สัญญา หรือที่บริษัทมีความสัมพันธ์ด้วย ซึ่งบริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการให้บริการและ/หรือผลิตภัณฑ์ของบริษัท เช่น ผู้ให้บริการ Cloud Computing บริษัทรับจ้างทำกิจกรรมทางการตลาด บริษัทรับจ้างพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศให้แก่บริษัท
3.5 บริษัทข้อมูลเครดิตและสมาชิกตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต เป็นต้น
3.6 เปิดเผยข้อมูลให้แก่บุคคลภายนอกตามที่บริษัทได้รับความยินยอมจากท่าน
3.7 เปิดเผยข้อมูลเพื่อทำการธุรกรรม และ/หรือ การใช้บริการตามความประสงค์ของท่าน
4. สิทธิของเจ้าของข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทคำนึงถึงสิทธิส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งสิทธิของท่านเป็นสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ควรทราบ ได้แก่
4.1 สิทธิขอถอนความยินยอม หากท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (ไม่จะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่
ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านอาจส่งผลกระทบต่อท่านจากการใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการต่างๆ เช่น ท่านจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ โปรโมชั่นหรือข้อเสนอใหม่ๆ ไม่ได้รับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ดียิ่งขึ้นและสอดคล้องกับความต้องการของท่าน หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์แก่ท่าน เป็นต้น เพื่อประโยชน์ของท่าน จึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม
4.2 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท และขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยว่าบริษัทได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร
4.3 สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยัง ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยเพื่อให้ลูกค้า/คู่ค้าสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการของบริษัทได้ตามความประสงค์ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาอยู่กับบริษัท หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการของบริษัท หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด
4.4 สิทธิขอคัดค้าน ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน บริษัทจะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัทสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี
นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาด หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติได้อีกด้วย
4.5 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
4.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้บริษัทระงับการใช้แทน
4.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องเป็นปัจจุบันสมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
4.8 สิทธิร้องเรียน ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
4.9 การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดต่อสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น หากบริษัทปฏิเสธคำขอข้างต้น บริษัทจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย
ท่านสามารถขอใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้นได้ โดยยื่นคำร้องขอใช้สิทธิต่อบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษร หรือผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ตามแบบฟอร์มที่บริษัทกำหนดผ่าน”ช่องทางการติดต่อของบริษัท”ด้านล่าง โดยบริษัทจะพิจารณาแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องฯของท่านภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องฯ ดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธสิทธิของเจ้าของข้อมูลได้ในกรณีที่มีกฏหมายกำหนดไว้
5. คุกกี้
คุกกี้คือไฟล์ข้อมูลขนาดเล็กที่จะเก็บข้อมูลเท่าที่จำเป็นในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเจ้าของข้อมูลไว้ชั่วคราว เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร รวมถึงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น และเพื่อให้ได้รับการบริการที่ดีที่สุด โดยไม่ได้บันทึกข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ ซึ่งข้อมูลคุกกี้จะถูกจัดเก็บเป็นเวลา 12 เดือน (ตรวจสอบสถานะการใช้งานหรือปฏิเสธการใช้งานคุกกี้ในเบราว์เซอร์ได้ทางหน้าเว็บไซต์ของบริษัท)
6. มาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure) เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากบริษัทใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยไม่ชอบ และบริษัทได้มีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะๆ ตามความจำเป็นและเหมาะสม
นอกจากนี้ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากบริษัทมีหน้าที่ต้องรักษาความลับข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่บริษัทกำหนดขึ้น
7. ระยะเวลาจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
กรณีที่ท่านไม่ได้เป็นลูกค้า และ/หรือคู่ค้า ของบริษัทอีกต่อไปหรือยุติความสัมพันธ์กับบริษัทไปแล้ว บริษัทจะพิจารณาจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไว้ตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ) จัดเก็บไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตรวจสอบกรณีอาจเกิดข้อพิพาทภายในอายุความตามที่กฎหมายกำหนดเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี เป็นต้น และเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาในการจัดเก็บแล้วบริษัทจะทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวทันที
8. ช่องทางการติดต่อ
บริษัทจัดให้มีช่องทางการติดต่อหากท่านมีข้อร้องเรียน หรือต้องการใช้สิทธิที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยสามารถติดต่อตามข้อมูลที่แจ้งไว้ในแต่ละช่องทางการบริการของบริษัท
8.1 ติดต่อสำนักงานใหญ่
บริษัท เบสท์ คาร์ เซ็นเตอร์ จำกัด
ที่อยู่ :434/1 ถ.ศรีนครินทร์ ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ เทศบาลนครสมุทรปราการ 10270
8.2 อีเมล : admin@best-carcenter.com
8.3 Call Center 02-7438634